วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

เมล์จากนักเรียนไทยในสิงค์โปร์

เครดิต จากเวบข้างล่าง ซึ่งตอนนี้ปิดตัวไปแล้ว เพราะยะฮู้ไม่ยอมทำจีโอฯ ต่อแล้ว -"-
http://www.geocities.com/modify_th/index.htm

ซึ่งตอนที่เจ้าของบล็อก ไปพบบทความนี้ ก็เหลือแต่แคชค้างอยู่ในกูเกิ้ลแล้วเท่านั้น จึงไม่มีภาพประกอบครับ ต้องขออภัียด้วย

เมล์จากนักเรียนไทยในสิงค์โปร์

สวัสดีครับ ผมเป็นเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่เรียนที่สิงคโปร์ ครับ ผมได้อ่านเรื่องที่เอามาลงไปกะปุก ที่เป็นผู้ชายแอบเอากล้องใส่ไว้ใน ถุงกระดาษแล้วแอบมองกางเกงในผู้หญิงแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีครับ แล้วยิ่ง ปรับไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันบาทนี่ ยิ่งน่าโมโหเข้าไปใหญ่.

ผมได้เห็นการทำโทษใน สิงคโปร์ แล้วรู้สึกทึ่งมากครับ มันเป็นอะไรที่ได้ผลมาก สำหรับในประเทศนี้ แล้วผมก็คิดว่ามันจะมีประโยชน์ เหมือนกันในเมืองไทยครับ เลยอยากจะเอามาเผยแพร่ให้ชาวกะปุกทุกคนครับเผื่อมันจะทำให้คนไทยเห็นว่า กฏหมายในเมืองไทยนั้นไม่เข้มงวดพอ ถึงเวลาแล้วครับ ที่เมืองไทยจะต้องรัดกุมเรื่องนี้ให้มากขึ้นครับ ผมจึงอยากให้พี่ทีมงานช่วยพิจารณาเรื่องนี้ด้วยครับ.



ผมได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก เวปต่างๆครับ แล้วมีรูปส่งมาให้ดูด้วย ครับจะได้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นครับ ว่าเขาให้ความสำคัญต่อคนที่ทำความผิดอย่างไร.

เริ่มต้น ในสิงคโปร์ คนที่ทำผิดกดหมายเช่น ข่มขืน ( Rape ) ลวนลาม ( Molest ) ยกแก็งตีกัน ( Gang Fight ) จงใจทำให้ทรัพย์สินของรัฐบาล หรือของประชาชน เสียหายโดยจงใจ ( Vandalism ) ใช้ หรือค้าขายยาเสพติด ( Drug Trafficking ) ไม่ใช่เพราะคดีใหญ่ๆเท่านั้นบางครั้งคดีเล็กๆก็โดนเฆี่ยนได้อย่างเช่น เข้าประเทศโดยผิดกฏหมาย ( Illegal Entry ) ขายหรือขนส่งพลุ ( Sell or transport firework ) และแน่นอนค้าขาย CD เถื่อน ( Pirated CD ) ทำโทษโดยการ เฆี่ยนที่ก้น ปรับ,จำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับทั้งเฆี่ยน ขึ้นอยู่กับความหนักของคดีครับ.

รวมทั้งหมด 40 กว่าคดีที่สามารถลงโทษด้วยการเฆี่ยนได้ ในหนึ่งปีมีการเฆี่ยนกันเป็นพันๆครั้ง. จำนวนของผู้ที่ถูกเฆี่ยนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

1988: 616 คน (119 คนต่างชาติ)
1992: 1,422 คน
1993: 3,244 คน, หรือ 60 ต่ออาทิตย์


การเฆี่ยนของที่นี่นั้นไม่เหมือนที่ไหน แน่นอนครับ. นักโทษที่เป็นผู้ชาย อายูตั้งแต่ 16 - 50 ปี และได้รับการรับรองจากหมอในเรือนจำแล้วว่า ฟิตพอที่จะเฆี่ยนได้ เท่านั้นที่เจ้าหน้าที่
สามารถเฆี่ยนได้. คนที่จะมาทำการเฆี่ยนนั้น จะต้องเข้า Course 2 ปี จะเป็นหลักสูตรการเฆี่ยนโดยเฉพาะ รับรองได้ว่าเฆี่ยน 100 ทีถูกเป้าหมดแน่นอน. เวลาเฆี่ยนนั้นจะไม่เฆี่ยนจุดเดียวกันเด็ดขาด จะเป็นบนหรือล่างรอยเฆี่ยนเก่านิดหน่อย เจ้าหน้าที่เฆี่ยนนั้นจะสามารถกะได้เลยว่าจะตีตรงไหน เพราะว่าฝึกกับหุ่นบ่อยมาก

ไม้ที่ใช้เฆี่ยนนั้นจะใช้ไม้ที่ชื่อว่า Rattan ในภาษาอังกฤษครับ เป็นไม้ที่แข็งและเหมาะสำหรับการตีมาก สามารถเฆี่ยนได้ดีทีเดียว ความหนาของไม้ จะขนาด 13 มิล และความยาว 1.2 เมตร. ( มาตรฐาน ) ไม้นี้จะต้องเอาไปแช่น้ำก่อนหนึ่งคืน เพื่อให้มันเปียก และจะทำให้ความเจ็บนั้นทวีคูณ และจะได้ไม่ทำให้ผิวหนังแตกมาก ผู้ต้องหานั้นจะต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมดและเกาะที่รองไว้ ( อย่างในรูป ) และในสถานที่เฆี่ยนนั้นจะต้องมีหมอและ ผู้ช่วยนักเฆี่ยน และนักเฆี่ยนมือโปรอยู่. ทุกครั้งที่ไม้นั้นหวดลงไปบนก้น หมอจะทำการเข้าตรวจทันที และจะตรวจว่าสามารถเฆี่ยนต่อได้อีกไหม. เฉลี่ยแล้วอย่างมากวันนึงจะทนได้ไม่กี่ครั้งหรอกครับ อย่างเก่งก็ 5 หลังจากนั้นพอหมอ ให้ไฟเขียวแล้วก็เฆี่ยนไปอีกได้ ไปเรื่อยๆครับ

พอถึงประมาณเฆี่ยนครั้งที่ 3-4 เลือดจะพุ่งออกมาจากก้นแน่นอนครับ และไม่ใช่ค่อยๆหยดนะครับ มันออกมาเหมือนพุ่งออกมาเลยครับ กฎหมายกำหนดว่าเฆี่ยนได้มากที่สุด 24 ครั้ง คนส่วนมากโดน 3 ทีแรกก็จะสลบแล้วครับ ก็มีบ้างครับที่จะแกล้งสลบ แต่ไม่สำเร็จหรอกครับ เพราะว่าจะมีหมอคอยดูอยู่เวลา จะรู้ทันทีว่าสลบจริงหรือเปล่า จะมีทีมแพทย์คอยรักษาด้วยครับ แน่นอนว่า รอยเฆี่ยนนั้นจะอยู่บนตัวนักโทษตลอดไป


ผมอยากจะยกตัวอย่างเรื่องนี้ให้เป็นตัวอย่างครับ ในปี 1994 มีนาคม เด็กฝรั่งชาวอเมริกัน วัย 18ปี นามว่า Michale Fay ได้โดนจับใน สิงคโปร์ ข้อหาทำลายทรัพย์สินของคน สิงคโปร์ คนนึงครับ. Michale ได้สเปรย์สีบนรถของชาว สิงคโปร์ คนนั้นด้วยสีแดงแต่ถูกจับได้ครับ ศาสตัดสินให้จำคุก 4 เดือน และโทษเฆี่ยน 6 ครั้งครับ. เรื่องนี้เป็นการทำให้ สิงคโปร์ เป็นประเทศที่โด่งดังมากทั่วโลก โดยเฉพาะในอเมริกา บ้างก็กล่าวว่ามันโหดร้ายเกินไป บ้างก็บอกว่านี่เป็นการทารุณเด็ก. ประธาณาธิปดี คนเก่า บิล คลินตั้น ของอเมริกาได้ ออกมาขอให้ สิงคโปร์ นั้นยกโทษเฆี่ยนและให้รับโทษจำคุก และ สิงคโปร์ ได้ปฏิเศฐอย่างสิ้นเชิงโดย บอกว่านี่เป็นการทำโทษในประเทศ สิงคโปร์ และจะต้องทำตามอย่างเคร่งครัด แต่การเฆี่ยนได้ลดจาก 6 มาเป็น 4 ครั้งครับเนื่องจากเห็นแก่มิตรภาพของ สิงคโปร์ และ อเมริกา. นี่แสดงให้เราเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้านเรา เขาให้ความสำคัญ กับกฏหมายขนาดไหน.

และเรื่องข่มขืนนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ การลงโทษนี่เด็ดขาดแบบสุดๆครับโทษข่มขืน เด็กอายูต่ำกว่า 14 ปี ไม่ว่าเขาจะยินยอมหรือไม่ เฆี่ยนไม่ต่ำกว่า 12 ครั้ง , จำคุกไม่ต่ำกว่า 8 ปี และไม่เกิน 20 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 เหรียญ สิงคโปร์ ครับ (2,400,000 บาท) สำหรับ โทษข่มขืน ผู้หญิงอายุสูงกว่า 14 ปี จำคุกไม่ต่ำกว่า 5 ปี และ ปรับไม่ต่ำกว่า 10,000 เหรียญและเฆี่ยน ถ้ากฏหมายนี้เอามาใช้ในเมืองไทย คุณมีความคิดเห็นอย่างไร ?

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะรวมใจกันทำให้กฏหมายของเมืองไทยเข้มงวดกว่านี้ ?

ความรู้สึกของคนที่ถูกเฆี่ยน

"The first stroke came... the pain was unbelievable and there were still five to go. There was pain in my whole body. Only my hair didn't feel pain. I thought nothing could be worse than that until the second stroke hit me. Then I really thought I was going to die. By the time the third came, my whole body was just a lump of pain and the other two strokes did not make any difference" (Ah Seng, 5 strokes)

" You will never imagine the pain if you have not been caned in there before. " (Sam, 12 strokes)

จบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น